Monday, March 16, 2015

เทคนิคการตีเหล็กยาว และ แฟร์เวย์

เทคนิคการตีเหล็กยาวและแฟร์เวย์

มีนักกอล์ฟจำนวนไม่น้อยที่มีความสามารถในการตีเหล็กสั้นและเหล็กกลางได้ดี แต่ไม่สามารถตีเหล็กยาว (ตั้งแต่เหล็ก 5 ขึ้นไป) หรือหัวไม้แฟร์เวย์ได้ ซึ่งสาเหตุที่พบโดยส่วนมากมาจากวงสวิงของนักกอล์ฟเหล่านั้นที่มีลักษณะของการขึ้นไม้และลงไม้ในมุมที่ชันเกินไป 
   
เลดี้ ทิปส์ของเราฉบับนี้ โปรโบว์ ปิยธิดา สงนอก จะมาแนะนำการเล่นด้วยเหล็กยาวหรือการตีหัวไม้แฟร์เวย์ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.การยืนจรดลูกให้ยืนโดยให้น้ำหนักตัวทิ้งลงไปที่เท้าขวาให้มากกว่าเท้าซ้ายประมาณ 60%
2.ตำแหน่งลูกกอล์ฟให้ตั้งอยู่ค่อนไปทางเท้าซ้ายโดยให้ห่างจากส้นเท้าซ้ายประมาณ 2 นิ้วโดยให้ศีรษะอยู่หลังลูกกอล์ฟตลอดระยะเวลาแบ็คสวิงและดาวน์สวิง
3.การแบ็คสวิงโดยใช้ซีกซ้ายของร่างกายดันไม้ขึ้น พยายามให้หัวไม้ราบไปกับพื้นให้กว้างมากที่สุด ห้ามไม่ให้ใช้มือขวายกไม้ขึ้นเพราะจะทำให้วงสวิงชันและไหล่ไม่หมุน
4.การลงไม้ดาวน์สวิงต้องลงในแนวระนาบกับพื้น (ลงไม้ในลักษณะตีกวาดไปที่ลูก) โดยพยายามเหยียบเท้าข้างขวาให้นานกว่าปกติเล็กน้อยในขณะเข้าอิมแพ็ค ต้องไม่ยกเท้าขวาก่อนเข้าปะทะลูก

ลองฝึกกันดู การตีหัวไม้แฟร์เวย์หรือเหล็กยาวจะเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คุณคิด 

วิธีตีต่ำกว่า 100 สร้างพื้นฐานให้ดี ก่อนจะพัฒนาฝีมือ


วิธีตีต่ำกว่า 100 สร้างพื้นฐานให้ดี ก่อนจะพัฒนาฝีมือ


การเล่นกอล์ฟให้สนุก นอกจากจะตีแต่ละช็อตให้สวยงาม เราจำเป็นต้องฝึกทักษะวิธี
ทำคะแนน (หรือเรียกอีกอย่างคือวิธีทำให้ไม่เสียคะแนน) ซึ่งแบบทดสอบแรกสำหรับมือใหม่ทุกคนคือ ทำอย่างไรให้สกอร์ต่ำกว่าร้อย ซึ่งผมมีแนวคิดมาเสนอดังนี้
อันดับแรก  ต้องทำสองพัตต์ให้ได้อย่างน้อยเก้าหลุม ด้วยการหาโอกาสซ้อมพัตต์บ่อยๆ พัตต์เล่นที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้ซ้อมบ่อยๆ ก็แล้วกัน
อันดับต่อมา  ต้องซ้อมลูกสั้นระยะ 90 หลาลงมาให้ทีเดียวออน ออนใกล้ออนไกลไม่สำคัญขอให้ออน ด้วยการซ้อมเหล็กสั้นเหล็กเดียว (เช่น PW) หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ โดยตีลูกทั้งสามหรือสี่ถาด ด้วยเหล็กสั้นเหล็กเดียวทุกระยะ ตั้งแต่ 90, 80, ..., 10 หลา วนไปวนมา
อันดับสุดท้าย  ต้องตีลูกให้อยู่ในแฟร์เวย์โดยไม่ฉึก ท้อป แช้งค์ สไลด์ ฮุกแม้ระยะจะสั้นกว่ามาตรฐานสัก 20-40 หลาก็ไม่เป็นปัญหา ทำได้โดยเอาไดร์ฟเวอร์ ไม้สาม เหล็ก 3,4,5 เก็บไว้ที่บ้าน ไม่ต้องเอาไปออกรอบ ไม่ต้องเอาไปซ้อม 
แล้วซ้อมหัวไม้ห้าให้ได้ระยะ 150-180 หลา, 
เหล็ก 6 ระยะ 130-140,
เหล็ก 7 ระยะ 120-130, 
เหล็ก 8 ระยะ 110-120, 
เหล็ก 9 ระยะ 100-110 (หมายถึงเมื่อซ้อมไม้และเหล็กเหล่านี้ตกในช่วงระยะที่กำหนด ถือว่าใช้ได้แล้ว ไม่ต้องตีให้ได้ระยะสูงสุดทุกครั้ง เพราะเวลาออกรอบจะมีความเครียดเป็นตัวแปร จะทำให้เราฉึกหรือแช้งค์)
        โดยทุกไม้ที่กล่าวนี้ ให้ซ้อมด้วยการตีเบาๆ เท่านั้น ห้ามตีแรง (ข้อกำหนดนี้จะจบลงเมื่อคุณเบรคร้อยได้) เพราะหากตีเบาๆ แล้วยังตีให้ตรงไม่ได้ ยังตีระยะที่กล่าวมาไม่ได้ แสดงว่าวงของคุณผิดพลาดอย่างรุนแรง ต้องหาทางเปลี่ยนวงให้ถูกเบสิคก่อน

จากนั้นเมื่อไปออกรอบ
        
  หากเป็นพาร์สามที่ระยะเกิน 140 หลาให้หวังทำสองออน โดยใช้แค่เหล็กเจ็ดหรือแปดตีไปตรงกลางทาง แล้วค่อยใช้ PW ชิพขึ้นไปออน ทำสองพัตต์
        
 หากเป็นพาร์สี่ระยะเกิน 320 หลาให้หวังทำสามออน โดยตีไม้ห้าเบาๆ ไปกลางแฟร์เวย์ ตามไปซ้ำด้วยเหล็กเจ็ดหรือแปด แล้วขึ้นกรีนด้วย PW ไปพัตต์สองหรือสามที และ
        
 หากเป็นพาร์ห้าระยะเกิน 450 หลาให้หวังทำสี่ออน ด้วยหัวไม้ห้า เหล็กหก และเหล็กเจ็ด (ตีเบาๆ ท่องไว้) ขึ้นด้วย PW และสองทีด้วยพัตต์เตอร์
         เมื่อเผชิญภาวะกดดัน เช่นพาร์สามระยะ 140 หลาพอดี ขอให้ท่องไว้ว่า ตีเบาๆ ตีเบาๆ เพราะหากตีสั้นไป 20 หลาเรายังมีสิทธิ์ไปซ้ำด้วย PW ทำสองออนได้ แต่หากตกน้ำหรือฉึก ก็คงไม่พ้นสามออนสี่ออน และให้คิดทำนองเดียวกันในหลุมพาร์สี่พาร์ห้า ส่วนหากตีลูกตกทรายข้างกรีน ให้ตีขึ้นมาด้วย PW โดยคิดว่าทรายก็เหมือนหญ้าอ่อน ขอให้ตีขึ้นมาออนก็ใช้ได้ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลหลุม
     
ลองคำนวณดูว่า หากเราทำสองออนในพาร์สามทุกหลุม สามออนในพาร์สี่ทุกหลุม สี่ออนในพาร์ห้าทุกหลุม และสองพัตต์เก้าหลุม สามพัตต์เก้าหลุม (2x4 + 3x10 + 4x4 + 2*9 + 3*9) เราจะทำคะแนนได้ 99 !
    
 จะเห็นได้ว่านี่คือมาตรฐานขั้นต่ำที่คนเล่นกอล์ฟทุกคนควรทำได้ ซึ่งหัวใจของการเล่นสูตรนี้คือ ต้องไม่ตีลูกเข้าป่าตกน้ำ (ตีเบาๆ ทุกช็อต) และลูกสั้นในระยะ 90 หลาลงมาต้องออนให้ได้ (ลองอ่านซ้ำทั้งหมดอีกครั้ง)
     
 หลังจากเบรคร้อยได้แล้ว ค่อยมาสนใจเพิ่มระยะเหล็กให้ได้มาตรฐาน และมาสนใจตีไดร์ฟเวอร์ให้ได้ เพราะหากเราไม่รู้วิธีตีต่ำกว่าร้อย ต่อให้เราตีไดร์ฟเวอร์ได้ดี ตีเหล็กได้ไกล แต่ออกเกินร้อยทุกที เราจะหาความสุขในการออกรอบได้ยากเต็มที


Sunday, March 15, 2015

เทคนิคการลดสกอร์.....ของโปรเชาว์

เทคนิคการลดสกอร์.....ของโปรเชาว์


ถ้าจะแบ่งผู้เล่นกอล์ฟตามกลุ่มระดับฝีมือต่างๆ กันแล้ว น่าจะได้ดังนี้ 
      
 
กลุ่มที่ 1: ผู้ที่ผ่านการฝึกหัดใหม่ แล้วออกรอบยังไม่ชำนาญ สกอร์เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 120 - 140 
       
เป้าหมาย : ลดสกอร์ให้เหลือประมาณ 100 -110 ถ้าคิดให้ง่ายๆ ว่าแต่ละหลุมให้เกินได้หลุมละ 2 สโตรคเฉพาะพาร์ที่ตั้งไว้ คือ 108 
       ประเมิน : ผู้เล่นที่อยู่ในระดับนี้ แสดงว่ายังมีความไม่แน่นอนของการตี , การชิพและการพัตต์ เพราะถ้ามีความแน่นอนในการเล่นแล้ว ถึงแม้ว่าจะตีไม่ไกล ก็จะสามารถทำสกอร์ได้ดีกว่านั้นได้
        ยกตัวอย่างพาร์ 4 ระยะ 400 หลา ถ้าเป็นผู้เล่นที่ยังตีไม่ไกล เอาเหล็ก 5 มาตีบนที ได้ระยะ 130 หลา แล้วเอาเหล็ก 7 มาตี 2 ครั้ง แต่ละครั้งได้ระยะ 110 หลา รวม 3 ครั้ง แล้วได้ระยะ 350 หลา เหลือระยะอีก 50 หลา เอาพิชชิ่งเวดจ์มาตีออน พัตต์อีก 2 ครั้ง รวมแล้วได้สกอร์ 6 การตีได้ 6 เท่ากับเกินหลุมนั้น 2 สโตรค ด้วยศักยกรรมที่ตีถ้าสามารถที่จะทำเกินหลุมละ 2 สโตรคได้ 18 หลุม เกิน 36 เมื่อเอาไปรวมกับ 72 แล้วจะได้ 108 แต้ม
        การที่ตีแล้วสกอร์เกินไปถึง 120 - 140 ได้นั้น แสดงว่าไม่สามารถตีได้ตรงและไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งการเล่นลูกสั้นต่ำกว่า 100 หลา รวมทั้งการพัตต์ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องการ คือ 1 ออน 2 พัตต์ได้ อาจจะมี 2 หรือ 3 ออน หรือทำ 3-4 พัตต์ 

        
แนวการพัฒนาอย่างง่ายโดยที่ยังไม่ต้องไปสนใจการดีให้ไกลด้วยเหล็กยาว หรือหัวไม้ให้เสียเวลา 

1. ฝึกซ้อมลูกสั้นที่ต่ำกว่า 100 หลาลงมาให้แน่นอนด้วย พิชชิ่งเวดจ์ เหล็กเดียวโดยอยู่ตรงไหนต้องสามารถตีขึ้นไปออนกรีนให้ได้ 
2. 
ฝึกซ้อมลูกสั้นรอบกรีนด้วย พิชชิ่งเวดจ์ และ เเซนเวดจ์ เช่น ชิพ พัตต์ ระเบิดทรายให้ชำนาญ ให้สามารถทำครั้งเดียวให้ออนไม่ให้ผิดพลาด หรือทำให้ใกล้หลุมได้ยิ่งดี
3. ฝึกซ้อมการพัตต์ให้ไม่เกิน 2 ครั้ง ต้องลงหลุม ไม่ว่าอยู่ตรงไหนของกรีน โดยพัตต์ไกลให้มาใกล้หลุมให้มากที่สุด และเมื่อใกล้หลุมแล้วต้องพัตต์ให้ลง 
4. ฝึกตีเหล็ก 7 บนพื้น ให้ชำนาญได้ระยะประมาณ 100 - 120 หลา ให้สม่ำเสมอยังไม่เน้นเรื่องไกล 
5. ฝึกตีเหล็ก 5 บนที ให้ชำนาญ ควรได้ระยะประมาณ 130 - 150 หลา ไม่เน้นไกลกว่านี้ 

       
ให้ฝึกซ้อมแค่ 5 ข้อนี้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกอย่างอื่น รับรองว่าสกอร์จะลดลงมาได้ไม่เกิน 110 อย่างแน่นอน 

  

      กลุ่มที่ 2: ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนซ้อมมาบ้างพอสมควรแต่ยังไม่มากนัก สกอร์เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 100 - 120 
     เป้าหมาย : ต้องการให้สกอร์ลดเหลือมาอยู่ 90 หมายถึงว่า พาร์ที่เป้าหมายตั้งไว้คือ 90 ไม่ใช่ 72 นั่นหมายว่าแต่ละหลุมตั้งเป้าหมายว่าโบกี้ทุกหลุม 
      ประเมิน : ผู้เล่นที่อยู่ในระดับนี้ อยู่ในระดับของการพัฒนา อาจจะยังมีความไม่แน่นอนของการตี แต่ก็พยายามที่จะตี โดยเฉพาะการทีช็อคเพราะอาจจะนำเครื่องทุ่นแรง เช่น  หัวไม้มาใช้ตลอดของการตีทั้งบนแท่นตั้งตี และบนแฟรเวย์ ทำให้มีความไม่แน่นอนในการเล่น
       สกอร์อาจดี หรือเสียเป็นหลุม ระยะอาจจะได้ค่อนข้างดีพอสมควร แต่ยังไม่แน่นอน และตรงทิศทาง หรืออาจจะมีความไม่สมบูรณ์ของช็อตในการตี เนื่องจากมีความผิดปกติในสวิงที่ตีอยู่
      ในหนึ่งรอบอาจมีสกอร์ได้พาร์ 2 - 3 หลุม และมีดับเบิ้ลโบกี้ หรือทริปปี้โบกี้ หรือดับเบิ้ลพาร์2-3 หลุม สอดแทรกอยู่
      ฉะนั้นการที่ตีและสกอร์ได้ 90 ได้นั้น จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีการตีและการเล่น หรือความคิดเสียใหม่ ก็ยากที่จะทำให้สกอร์ออกมาตีได้ 
แนวการพัฒนาอย่างง่าย ๆ 

1. ฝึกซ้อมลูกสั้นที่ต่ำกว่า 100 หลาลงมาให้แน่นอนด้วย ฟิชชิ่งเวดจ์ เหล็กเดียวอยู่ตรงไหนต้องสามารถตีขึ้นไปออนกรีนให้ได้ 
2. ฝึกซ้อมลูกสั้นรอบกรีนด้วย ฟิชชิ่งเวดจ์และแซนเวดจ์ เช่นชิพ พัตต์ ระเบิดทรายให้ชำนาญ ให้สามารถทำครั้งเดียวให้ออนไม่ให้ผิดพลาด หรือทำให้ใกล้หลุมได้ยิ่งดี
3. ฝึกซ้อมการพัตต์ให้ไม่เกิน 2 ครั้ง ต้องลงหลุม ไม่ว่าอยู่ตรงไหนของกรีน โดยพัตต์ไกลให้มาใกล้หลุมให้มากที่สุดและเมื่อใกล้หลุมแล้วต้องพัตต์ให้ลง 
4. ฝึกตีเหล็กทุกเบอร์บนพื้น ให้ชำนาญ ให้สม่ำเสมอ ให้รู้ระยะ ยังไม่เน้นเรื่องไกล 
5. ฝึกตีเหล็กยาวและหัวไม้ 5 หรือ 3 บนที ให้ชำนาญ ไม่เน้นเรื่องไกล 
6. 
เมื่อออกรอบให้หาอุปกรณ์ที่มั่นใจที่สุดในการทีออฟ ถ้าจะเน้นเรื่องสกอร์ ควรจะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ การเล่นไม่จำเป็นต้องมุ่งเป้าหมายให้ได้พาร์ตามสนามเพราะพาร์ของเราคือสกอร์เกิน 1 สโตรค 
7. หาโปรเป็นที่ปรึกษาปรับวงสวิง ซึ่งจะเป็นวิธีการพัฒนาที่ง่ายและเร็วที่สุด แต่อาจจะต้องลงทุนเพิ่มขึ้น 
ใช้แนวทางการฝึกซ้อม 7 ข้อนี้ รับรองว่าสกอร์จะลดลงมาตีได้ไม่เกิน 90 แน่นอน